ข้อดีของการติดฟิล์มกรองแสง
1. ช่วยลดแสงจ้า ให้ความรู้สึกสบายตา ในยามขับขี่ และช่วยลดความเครียดของดวงตาในภาวะที่แดดจัดๆ หรือแม้แต่ตอนเช้าที่แสงแดดอ่อนๆ แต่ก็ส่องเข้าตานั้น แสงแดดก็ยังเป็นปัญหาสำคัญ สำหรับผู้ที่ต้องการขับรถทุกคน เพราะการมองผ่านกระจกออกไปยังถนนที่แสงแดดจัดนั้น เป็นสาเหตุให้ดวงตาเกิดความเครียดเมื่อยล้า สายตาเสีย ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ส่วนผู้ที่ขับขี่รถยนต์ที่ติดฟิล์มกรองแสงนั้น ก็จะเป็นการช่วยลดแสงจ้าทำให้ทัศนวิสัย หรือการมองเห็น ในขณะขับรถมีประสิทธิภาพเต็มที่ รู้สึกสบายตาและไม่เกิดความเมื่อยล้า
2.การช่วยลดความร้อนจากแสงแดด เพราะประเทศไทยตั้งอยู่ในแถบใกล้เขตเส้นศูนย์สูตร
3.ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลต ( UV ) จากแสงแดด ซึ่งเป็นตัวการอย่างมากที่ทำให้ผิวเป็นฝ้า ตกกระ และยิ่งไปกว่านั้น แสงแดดยังเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย การติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ชนิดที่มีคุณภาพ จะช่วยป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลตได้มากกว่า 99% ช่วยถนอมผิวและสุขภาพของผู้โดยสารภายในรถยนต์
ยิ่งไปกว่านั้น รังสี UV ยังเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้วัสดุภายในรถยนต์ซีดจางและเสื่อมคุณภาพ ดังนั้น การติดฟิล์มกรองแสง จะช่วยชะลอการซีดจาง ของวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ เป็นการรักษาและยืดอายุการใช้งาน ซึ่งถือเป็นการช่วยป้องกันความเสียหาย ของวัสดุภายในรถไว้ตั้งแต่ต้นเหตุสภาพภูมิอากาศโดยรวมจะมีอุณหภูมิสูง แม้กระทั่งในช่วงหน้าหนาว ถึงอุณหภูมิจะไม่สูงมากนัก แต่แสงแดดก็ยังแรงอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ต้องใช้รถใช้ถนนเป็นระยะเวลานานๆ ก็มีโอกาสได้รับความร้อนจากแสงแดดมากกว่าปกติ
4. ช่วยลดอันตรายจากการแตกกระจาย ของกระจกรถยนต์ ในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ หากรถเกิดการเฉี่ยวชนจนกระทั่งกระจกแตกร้าว รถที่ติดฟิล์มรถยนต์ที่ได้คุณภาพ ผลิตจากโพลีเอสเทอร์ชั้นเยี่ยม และกาวพิเศษจะสามารถช่วยยึดเกาะเศษกระจกที่แตกไว้ด้วยกันไม่ให้ร่วงหล่นมาบาดโดนส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือทำอันตรายต่อผู้โดยสารในรถ
5.เพิ่มความสวยงามให้กับตัวรถและอาคารบ้านเรือน ทั้งนี้เพื่อให้ได้ประโยชน์จากฟิล์มกรองแสงอย่างคุ้มค่าและครบถ้วนดังที่กล่าวมาข้างต้น ผู้บริโภคจำเป็นจะต้องทราบข้อมูลต่างๆให้ชัดเจน และถูกต้องเป็นจริงเพื่อนำมาพิจารณา ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เนื่องจากในประเทศไทย มีฟิล์มกรองแสงอยู่มากมายหลายยี่ห้อ หลายรุ่นด้วยกัน เพิ่มความเป็นส่วนตัวภายในห้องโดยสาร
6.เพิ่มทัศนวิสัยที่ดีขณะขับขี่แม้ในยามค่ำคืน
7.ปกป้องวัสดุ อุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ ภายในรถและอาคารบ้านเรือน
8. ประหยัดไฟฟ้าและพลังงาน ช่วยให้เครื่องปรับอากาศ ไม่ต้องทำงานหนักช่วยยืดอายุการใช้งาน
การเลือกฟิล์มกรองแสง
ไทยเป็นเมืองร้อน และยิ่งถ้าเราขับรถ เราก็ยิ่งมีโอกาสเจอกับแสงแดด และความร้อนได้อย่างมากจนบางครั้งเราแทบจะทนไม่ได้ วิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้ คือการติดตั้งฟิล์มกรองแสงแต่ในตลาดบ้านเรา ก็มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ เราควรมีวิธีพิจารณาเลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสงให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดได้ดังนี้
คุณภาพ
ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดี ควรมีคุณสมบัติต่าง ๆ ของฟิล์ม เช่น
การลดความร้อน
การลดรังสียูวี
การสะท้อนแสง
แสงส่องผ่าน
ต้องเป็นค่ามาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ และควรเป็นไปตามมาตรฐานของ AIMCAL ซึ่งย่อมาจากASSOCIATION OF INDUSTRIAL METALLIZERS COATERS AND LAMINATORS - ASTM AMERICAN STANDARD TEST METHODS และ ASHRAE มิใช่ค่าที่พิมพ์หรือโฆษณาโดยปราศจากหลักฐานอ้างอิง
ผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย
ต้องเป็นบริษัทที่มีความตั้งใจ, จริงใจ และประสบการณ์ในการทำธุรกิจฟิล์มกรองแสง อย่างต่อเนื่องยาวนานเชื่อถือได้ และไม่มีการโฆษณาหลอกลวง หรือเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อยๆ มีมาตรฐานการรับประกันคุณภาพที่เชื่อถือได้โดยทั่วไปการรับประกันคุณภาพจะไม่ต่ำกว่า 7 ปี และสิ้นสุดเมื่อมีการเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ ดังนั้น ผู้บริโภคจึงต้องเลือกบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่ท่านมั่นใจว่า ตลอดระยะเวลาการรับประกัน บริษัท ฯ จะยังคงดำเนินธุรกิจฟิล์มกรองแสงอยู่อย่างมั่นคง และพร้อมที่จะรับผิดชอบหากฟิล์มที่ติดตั้งไปเกิดปัญหาใด ๆ ขึ้น
ราคา
ราคาต้องสมเหตุสมผล เหมาะสมกับคุณภาพในระดับที่ยอมรับได้ ไม่ใช่ต้องแพงเพียงเพราะมีชื่อเสียงมานานหรือเพราะโฆษณาเกินจริง ทำให้ตั้งราคาแพง หรือสูงขึ้นอีก ไม่สมคุณภาพที่โฆษณาไว้ โดยส่วนมากฟิล์มเคลือบโลหะ ทั้งชนิท Sputtered และ Metallized จะมีราคาสูงกว่าฟิล์มเคลือบสีประมาณ 1-2 เท่าตัว
โฆษณา
ผู้บริโภคควรพิจารณาโฆษณาของฟิล์มกรองแสงต่าง ๆ ให้ดีก่อนเลือกติดตั้ง ต้องเป็นโฆษณาที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่มีการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง % การลดความร้อน และคุณสมบัติต่าง ๆ ของฟิล์มกรองแสง % การลดความร้อนที่ถูกต้องนั้นต้องเป็น % การลดความร้อนจากแสงแดด
นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาถึงวิธีการทดสอบคุณภาพของฟิล์มกรองแสงด้วยว่า เชื่อถือได้หรือไม่ เช่น ไม่ควรทดสอบฟิล์มด้วยแสงสปอตไลท์ไม่ว่าจะโดยการให้ผู้บริโภคใช้มืออัง หรือยืนท่ามกลางแสงสปอตไลท์ ทั้งนี้เพราะเวลาเราขับรถจริง ๆ นั้น เราขับรถภายใต้แสงแดดมิใช่แสงสปอตไลท์ และแหล่งกำเนิดแสงทั้งสองชนิดนี้ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และบางครั้งยังมีกรณีว่าฟิล์มที่ใช้เวลาทดสอบกับฟิล์มที่นำมาติดตั้งให้นั้น เป็นคนละชนิดกัน หรือใช้ฟิล์มติดตั้งซ้อนทับกันสองชั้นในการทดสอบ จุดนี้ผู้บริโภคต้องพึงระวัง
**รู้จักฟิล์มกรองแสง**
ฟิล์มกรองแสง คือ ฟิล์มพลาสติก ซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากโพลิเอสเทอร์ เหนียว มีความบางเรียบไร้รอยย่นและสามารถแนบสนิท เป็นเนื้อเดียวกับกระจก ที่นำฟิล์มไปติดซึ่งยึดติดอยู่บนกระจกได้ด้วยกาวที่มีความใสไม่ทำให้ภาพที่มองผ่านฟิล์มบิดเบือน(distortion)โดยปกติแล้วฟิล์มกรองแสงทำหน้าที่ในการลดหรือกรองแสงสว่าง
ที่ผ่านเข้ามาทางกระจก ดังนั้น ฟิล์มกรองแสง ทั่วไปจึงมีการย้อมสีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะการกรองแสงสว่างเท่านั้นแต่ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดีกว่า
ฟิล์มกรองแสงทั่วไปจะต้องสามารถลดความร้อนและรังสีอัลตราไวโอเลตที เป็นสาเหตุของการซีดจางของสีและบ่อเกิดของปัญหาทางสุขภาพได้ด้วย
ประเภทของฟิล์มกรองแสง
1 ฟิล์มย้อมสี (Dyed Film) เป็นฟิล์มที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นต่ำโดยจะนำสีมาย้อมที่กาวโพลีเอสเตอร์ มีคุณสมบัติ ในการกรองแสงไดแต่สามารถลดความร้อนได้น้อย กาวที่ใช้ไม่มีคุณภาพราคาถูก อายุการใช้งานสั้นไม่เกิน 3 ปีเมื่อเสื่อมสภาพ สีจะจางลง เปลี่ยนเป็นสีม่วง โป่งพองกาวจะเสี่ยมทำให้รบกวนทัศนวิสัย ส่วนใหญ่ใช้เป็นฟิล์มแถมฟิล์มย้อมสีนี้ยังมีผู้บริโภค ที่เข้าใจผิดอยู่ว่าติดแล้วสามารถลดความร้อนได้ โดยเฉพาะผู้ที่เลือกสีเข้ม (ฟิล์ม 80% หรือแสงส่องผ่านได้ประมาณ 5-10%) เพราะความเข้มของฟิล์มจะทำให้รู้สึกสบายแต่สีของฟิล์มที่เข้มมากยิ่งจะดูดซับพลังงาน
ความร้อนไว้แล้วค่อยๆส่งผ่านมาในอาคารหรือรถยนต์ทำให้ร้อนขึ้น
2 ฟิล์มเคลือบละอองโลหะ (Metallized Film) เป็นฟิล์มที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงโดยใช้วิธีทางวิทยาสาศตร์นำเอา อนุภาคของโลหะมาเคลือบไว้บนแผ่นโพลีเอสเตอร์ ทำให้สามารถสะท้อนพลังงานความร้อนได้ดียิ่งขึ้น จึงสามารถลด ความร้อน ได้ดีกว่าฟิล์มย้อมสีมาก อายุการใช้งานนานกว่าประมาณ 5 - 7ปี กาวและโพลีเอสเตอร์มีคุณภาพดีกว่า ราคาสูงกว่า
3 ฟิล์มเคลือบอนุภาคโลหะ (Metal Sputtering Film) ใช้การเหนี่ยวนำของประจุไฟฟ้าในสุญญากาศให ้อนุภาค โลหะไปเกาะติดบนแผ่นโพลีเอสเตอร์ ทำให้ได้ฟิล์มที่มีความคงทนมาก ลดความร้อนได้มากพอกันกับที่2 ประมาณ 50-70% ฟิล์มประเภทนี้เหมาะสมกับการใช้ติดตั้งกระจกอาคารมากที่สุด มีราคาค่อนข้างสูง
**ประโยชน์ของการติดฟิล์มลดความร้อน**
1. ช่วยลดแสงจ้า ให้ความรู้สึกสบายตาในยามขับขี่ และช่วยลดความเครียดของดวงตาในภาวะที่แดดจัดๆ หรือแม้แต ตอนเช้า ที่แสงแดดอ่อนๆแต่ก็ส่องเข้าตานั้น แสงแดดก็ยังเป็นปัญหาสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการขับรถทุกคน เพราะการมองผ่านกระจก ออก ไปยังถนนที่แสงแดดจัดนั้นเป็นสาเหตุให้ดวงตาเกิดความเครียด เมื่อยล้าสายตาเสียซึ่งอาจนำไปสู่การเกิด อุบัติเหตุ บนท้องถนนได้ ส่วนผู้ที่ขับขี่รถยนต์ที่ติดฟิล์มกรองแสงนั้นก็จะเป็นการช่วยลดแสงจ้าทำให้ทัศนวิสั
ย หรือการมองเห็น ในขณะ ขับรถมีประสิทธิภาพเต็มที่ รู้สึกสบายตา และไม่เกิดความเมื่อยล้า
2. การช่วยลดความร้อนจากแสงแดด เพราะประเทศไทยตั้งอยู่ในแถบใกล้เขตเส้นศูนย์สูตร
3. ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลต ( UV ) จากแสงแดด ซึ่งเป็นตัวการอย่างมากที่ทำให้ผิวเป็นฝ้า ตกกระ และยิ่งไปกว่านั้น แสงแดดยังเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย การติดฟิล์มกรองแสง รถยนต์ชนิด ที่มีคุณภาพ จะช่วยป้องกัน รังสี อุลตร้าไวโอเลตได้มากกว่า 99% ช่วยถนอมผิวและสุขภาพของผู้โดยสารภายในรถยนต์ ยิ่งไปกว่านั้น รังสี UV ยังเป็นสาเหตุ สำคัญที่ทำให้ วัสดุภาย ในรถยนต์ ซีดจางและเสื่อมคุณภาพ ดังนั้น การติดฟิล์มกรองแสงจะช่วยชลอ การซีดจาง ของวัสดุ อุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ เป็นการ รักษาและยืดอายุการใช้งาน ซึ่งถือเป็นการช่วยป้องกัน ความเสียหายของวัสดุภายใน รถไว้ตั้งแต่ต้นเหตุสภาพ ภูมิอากาศ โดยรวมจะมีอุณหภูมิสูง แม้กระทั่งในช่วงหน้าหนาวถึงอุณหภูมิจะไม่สูงมากนัก แต่แสงแดด ก็ยังแรงอยู่ดี โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ผู้ที่ต้องใช้รถใช้ถนนเป็นระยะเวลานานๆก็มีโอกาสได้รับความร้อนจากแสงแดด มากกว่าปกติ
4.ช่วยลดอันตรายจากการแตกกระจายของกระจกรถยนต์ในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุหากรถเกิดการเ
ฉี่ยวชนจนกระทั่งกระจก
แตกร้าวรถที่ติดฟิล์มรถยนต์ที่ได้คุณภาพ ผลิตจากโพลีเอสเทอร์ชั้นเยี่ยม และกาวพิเศษ จะสามารถช่วย ยึดเกาะ เศษกระจก ที่แตกไว้ด้วยกันไม่ให้ร่วงหล่นมาบาดโดนส่วนต่างๆ ของร่างกายหรือทำอันตรายต่อผู้โดยสารในรถ
5. เพิ่มความสวยงามให้กับตัวรถและอาคารบ้านเรือน ทั้งนี้เพื่อให้ได้ประโยชน์ จากฟิล์มกรองแสง อย่างคุ้มค่า และครบถ้วน ดังที่กล่าวมาข้างต้น ผู้บริโภคจำเป็นจะต้องทราบข้อมูลต่างๆให้ชัดเจนและถูกต้องเป็นจริง เพื่อนำมาพิจารณา ก่อนการ ตัดสินใจ เลือกซื้อฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เนื่องจากในประเทศไทยมีฟิล์มกรองแสงอยู่มากมายหลายยี่ห้อ หลายรุ่นด้วยกัน5. เพิ่มความเป็นส่วนตัวภายในห้องโดยสาร
6. เพิ่มทัศนวิสัยที่ดีขณะขับขี่แม้ในยามค่ำคืน
7. ปกป้องวัสดุ , อุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ ภายในรถ
8. ประหยัดไฟฟ้าและพลังงาน ช่วยให้เครื่องปรับอากาศ ไม่ต้องทำงานหนักช่วยยืดอายุการใช้งาน
**ข้อแนะนำในการเลือกซื้อและติดตั้งฟิล์มลดความร้อน**
เนื่องจากปัจจุบันมีฟิล์มกรองแสงนับสิบแบรนด์อยู่ในตลาด ซึ่งทุกแบรนด์ต่างก็โฆษณาว่าเป็นสินค้า นำเข้าจากประเทศ แถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา สามารถลดความร้อนได้สูง ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้เกือบ 100 % บางรายรับประกัน ตลอดอายุการใช้งานเป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถ้าฟิล์มแบรนด์นั้นมีคุณสมบัติอย่างที่โฆษณาจริง ผู้บริโภคจะได้ รับผลประโยชน์ และความพอใจที่ตรงตามความต้องการของตนเอง และคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป ปัญหาคือจะ ทราบได้อย่างไร ว่า ข้อความที่โฆษณาเป็นจริงหรือไม่? เราจึงขอเสนอแนะวิธีการในการเลือกซื้อฟิล์มกรองแสง โดยแบ่งเป็น 4 หัวข้อใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้
1.มาตรฐานของโรงงานผู้ผลิตฟิล์ม
2.คุณสมบัติเฉพาะของฟิล์ม ( FILM SPECIFICATION )
3. บริษัทฯผู้นำเข้า
4. ราคา
5.การทดสอบฟิล์มด้วยตัวเอง
6.เลือกร้านติดตั้ง...ฝีมือช่างต้องชำนาญ |